วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การทำน้ำสมุนไพร แบบง่ายๆ

วันนี้จะมาแนะนำการทำน้ำสมุนไพรแบบง่ายๆ กันนะครับ
มีสูตร และขั้นตอนดังนี้ครับ

น้ำดอกอัญชัน
ส่วนผสม :
น้ำดอกอัญชัน 1 ถ้วย
น้ำเชื่อม 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำดอกอัญชัน :
นำดอกอัญชันสด 100 กรัม ล้างน้ำให้สะอาด ใส่หม้อ
เติมน้ำเปล่า 2 ถ้วย ต้มจนเดือด ปิดฝาทิ้งไว้ ประมาณ 2-3 นาที
แล้วกรองดอกอัญชันขึ้นจากหม้อต้ม

วิธีทำน้ำเชื่อม :
น้ำเปล่า 500 กรัม
น้ำตาลทราย 500 กรัม
นำน้ำดอกอัญชัน น้ำเชื่อม และน้ำผึ้งผสมรวมกัน ชิมรสตามชอบ

**อีกวิธีหนึ่ง**
นำดอกอัญชันตากแห้งประมาณ 25 ดอก ชงในน้ำเดือด 1 ถ้วย
ดื่มแทนชา
ข้อแนะนำการดื่ม :
1. ควรดื่มทันทีที่ปรุงเสร็จ เพื่อให้ได้คุณค่าทางอาหารและยา
2. การดื่มน้ำสมุนไพรชนิดเดียว ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ
อาจทำให้เกิดการสะสมสารบางชนิดที่มีฤทธิ์ต่อร่างกายได้
3. การดื่มน้ำสมุนไพรร้อนๆ ที่มีอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียสขึ้นไป
จะทำให้เยื่อบุผิวหลอดอาหาร
เสียสภาพภูมิคุ้มกันเฉพาะที่ และอาจทำให้มีการดูดซึมสารก่อมะเร็ง
จุลินทรีย์ ฯลฯ ได้ง่าย
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับจากดอกอัญชัน มีหลายประการดังนี้ :
  1. เป็นเครื่องดื่มดับกระหาย มีสารแอนโธไซยานิน
  2. มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิต้านทาน
3. ใช้เป็นสีผสมอาหาร โดยเฉพาะในขนมไทย
สารแอนโธไซยานิน มีอยู่มากในดอกอัญชัน มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
เช่น ช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็น เนื่องจากสารตัวนี้
จะไปเพิ่มการไหลเวียนในหลอดเลือดเล็กๆ
เช่น หลอดเลือดส่วนปลายทำให้กลไกที่ทำงาน
เกี่ยวกับการมองเห็นแข็งแรงขึ้นเพราะมีเลือดไหลเวียน
มาเลี้ยงมากขึ้น ในขณะนี้ก็มีการศึกษาวิจัยทางคลินิก
เกี่ยวกับความสามารถของแอนโธไซยานิน
ในการเพิ่มประสิทธิภาพของดวงตา
เช่น ตาเสื่อมจากโรคเบาหวาน โรคต้อหิน โรคต้อกระจก เป็นต้น

น้ำกระเจี๊ยบ
ส่วนผสม :
ดอกกระเจี๊ยบสด / แห้ง 20 กรัม (5 ดอก)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
น้ำเปล่า 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม (2 / 5 ช้อนคาว)

วิธีทำ :
1. เอาดอกกระเจี๊ยบสดหรือแห้งก็ได้ ล้างน้ำทำความสะอาด
นำใส่หม้อต้มจนเดือด แล้วลดไฟลงอ่อนๆ เคี่ยวเรื่อยๆ
จนน้ำเป็นสีแดงเข้มข้น
2. เอาดอกกระเจี๊ยบขึ้นจากหม้อต้ม แล้วเอาน้ำเชื่อม
และเกลือใส่ลงไป ปล่อยให้น้ำกระเจี๊ยบเดือด
นาที ยกลงชิมรสตามชอบ
3. เอาขวดเปล่ามาล้างทำความสะอาด ต้มในน้ำเดือด 20 นาที
นำน้ำกระเจี๊ยบแดงมากรอกแล้วปิดจุก
ให้แน่น แช่ตู้เย็นเก็บไว้ได้นาน

**อีกวิธีหนึ่ง**
นำดอกกระเจี๊ยบมาตากแห้ง แล้วนำมาบดเป็นผง
นำผงกระเจี๊ยบครั้งละ 1 ช้อนชา
ชงในน้ำเดือด 1 ถ้วย (250 มิลลิกรัม)

ประโยชน์ที่ร่างกายได้รับ :
1. คุณค่าทางอาหาร : ให้วิตามินเอสูงมากช่วยบำรุงสายตา
รองลงมามีแคลเซียมช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
2. คุณค่าทางยา : ช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต
เป็นยาระบายอ่อนๆ และช่วยแก้อาการกระหายน้ำ

น้ำมะตูม
ส่วนผสม :
มะตูมแห้ง 8 กรัม (2 ชิ้น)
น้ำตาลทราย 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
น้ำเปล่า 240 กรัม (16 ช้อนคาง)

วิธีทำ :
นำมะตูมแห้งมาล้างให้สะอาด ปิ้งไฟให้หอม นำไปใส่หม้อเติมน้ำ
ตั้งไฟเคี่ยวสักครู่ ยกลงกรองเอาแต่น้ำ เติมน้ำตาลทราย
ตั้งไฟให้ละลายชิมรสตามชอบ ยกลง

ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ :
1. คุณค่าทางยา : เป็นยาระบาย ขับลม ท้องเฟ้อ
ช่วยย่อยอาหาร บำรุงธาตุ ทำให้ขับถ่ายดี และเจริญ
อาหาร ขับเสมหะ แก้อาการร้อนในได้ดี

น้ำขิง
ส่วนผสม :
ขิงสด 15 กรัม (ขิงหั่นขนาด 1 นิ้ว 5-6 ชิ้น)
น้ำ 240 กรัม (16 ช้อนโต๊ะ)
น้ำเชื่อม 15 กรัม (2 ช้อนโต๊ะ)

วิธีทำ :
ปอกเปลือกขิงออกล้างน้ำให้สะอาด ทุบพอแหลกตั้งน้ำให้เดือด
เอาขิงที่ทุบไว้ลงต้มให้เดือดกรองเอากากออก
เติมน้ำตาล ชิมรสตามชอบ

คุณค่าทางโภชนาการ :
พลังงาน 61.5 กิโลแคลอรี
แคลเซียม 2.7 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 3.3 มิลลิกรัม

รสและสรรพคุณ :
รสเผ็ดร้อน บำรุงธาตุ ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน ช่วยเจริญอาหาร

น้ำตะไคร้
ส่วนผสม :
ตะไคร้ 20 กรัม (1 ต้ม)
น้ำเชื่อม 15 กรัม (1 ช้อนโต๊ะ)
น้ำเปล่า 240 กรัม (16 ช้อนโต๊ะ)

วิธีทำ :
นำตะไคร้มาล้างให้สะอาด หั่นเป็นท่อนสั้น ทุบให้แตก
ใส่หม้อต้มกับน้ำให้เดือดกระทั่งน้ำตะไคร้ออกมาปนกับน้ำ
จนเป็นสีเขียว สักครู่จึงยกลงกรองเอาตะไคร้ออก
เติมน้ำเชื่อม ชิมรสตามชอบ

**อีกวิธีหนึ่ง**
เอาเหง้าแก่ที่อยู่ใต้ดินล้างให้สะอาด ฝานเป็นแว่นบางๆ
คั่วไฟอ่อนๆ พอเหลือง ชงเป็นชา ดื่มวันละ 3 ครั้งๆ 1 ถ้วยชา
จะช่วยขับปัสสาวะ

รสและสรรพคุณ :
รสเผ็ดร้อน บำรุงธาตุ ช่วยแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด
ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อได้ดี ช่วยลดพิษ
ของสารแปลกปลอมในร่างกาย

หวังว่าสูตรน้ำสมุนไพรนี้จะช่วยให้ท่านทั้งหลาย
มีสุขภาพดีกันถ้วนหน้านะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น